วงศ์ปลากระเบนธง
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วงศ์ปลากระเบนธง (วงศ์: Dasyatidae, อังกฤษ: Whipray) เป็นวงศ์ย่อยของปลากระเบนวงศ์หนึ่งพบได้ทั้งน้ำจืดสนิท, น้ำกร่อย และทะเล มีรูปร่างแบนราบ ส่วนครีบอกแผ่กว้างรอบตัว ปากอยู่ด้านล่าง ตาอยู่ด้านบน มีช่องน้ำเข้า 1 คู่อยู่ด้านหลัง
มีขากรรไกรและฟันที่แข็งแรง ใช้ขบกัดสัตว์เปลือกแข็งซึ่งเป็นอาหารหลักได้ดี ผิวหนังเรียบนิ่มไม่มีเกล็ด ยกเว้นบริเวณกลางหลัง
มีส่วนหางที่ยาวเหมือนแส้ ซึ่งคนโบราณนิยมตัดหางมาทำเป็นแส้ เรียกว่า "แส้หางกระเบน" ที่โคนหางมีเงี่ยงแหลมอยู่ 1-2 ชิ้น เป็นอาวุธใช้สำหรับป้องกันตัว มีพิษแรง มีค่าความเป็นกรด-ด่าง (pH) ประมาณ 6 มักมีคนถูกแทงบ่อย ๆ เพราะไปแตะมันโดยไม่ระวัง เช่น เท้าไปถูกเข้าระหว่างที่ปลาฝังตัวอยู่ใต้ทราย ขณะที่เดินบริเวณหาด
เนื้อหา[ซ่อน] |
[แก้] สกุล
ปัจจุบันพบประมาณ 7 สกุล ได้แก่- Himantura มี 28 ชนิด
- Dasyatis มี 39 ชนิด
- Makararaja มีเพียงชนิดเดียว
- Pastinachus มี 4 ชนิด
- Pteroplatytrygon มีเพียงชนิดเดียว
- Taeniura มี 3 ชนิด
- Urogymnus มี 2 ชนิด
[แก้] ในประเทศไทย
ปลาในวงศ์ปลากระเบนธงที่พบในประเทศไทย อาทิ- ที่พบในน้ำจืด
- ปลากระเบนลาว (Dasyatis laoensis)
- ปลากระเบนราหู (Himantura chaophraya)
- ปลากระเบนแม่กลอง (Himantura kittipongi)
- ปลากระเบนขาว (Himantura signifer)
- ที่พบในน้ำกร่อยหรือทะเล
- ปลากระเบนบัว (Himantura bleekeri)
- ปลากระเบนแมลงวัน (Himantura gerrardi)
- ปลากระเบนลายเสือ (Himantura oxyrhynchus)
- ปลากระเบนชายธง (Pastinachus sephen)
- ปลากระเบนทอง (Taeniura lymma)
[แก้] พิษปลากระเบน
เงี่ยงหางของปลากระเบนนั้น มีลักษณะเป็นแท่งแบนยาว มีส่วนปลายแหลม ขอบทั้งสองข้างมีรอยหยักเป็นฟันเลื่อย ด้านบนมีร่องจากโคนถึงปลายกลุ่มเซลล์สร้างพิษหรือต่อมพิษ (venom gland) อยู่ใต้ผิวชั้นนอก (epidermis)พิษจากเงี่ยงหางของปลาในวงศ์นี้ไม่อาจทำให้แก่ชีวิตได้ โดยพิษมีคุณสมบัติเป็นสารโปรตีนจะซึมผ่านทางบาดแผล โดยมีน้ำพิษสีเทาหรือใส และดูดซึมเข้าระบบทางเดินอาหาร จะเกิดการอักเสบ เจ็บปวด เช่นเดียวกับพิษของงูหางกระดิ่ง นอกจากนี้แล้วยังมีเอนไซม์ในการทำลายเนื้อเยื่อได้อีกด้วย ในบุคคลที่มีอาการแพ้มากจะทำให้มีไข้ได้ และบาดแผลอาจลุกลามได้ แต่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่ในกรณีที่ สตีฟ เออร์วิน พิธีกรรายการโทรทัศน์ชาวออสเตรเลียที่เสียชีวิตเพราะถูกเงี่ยงของปลากระเบนชายธง (Pastinachus sephen) แทงแล้วเสียชีวิตนั้น มิได้เกิดจากพิษโดยตรง แต่เป็นเพราะถูกแทงเข้าที่อวัยวะสำคัญคือ หัวใจ ประกอบอยู่ใต้น้ำด้วย ทำให้น้ำท่วมปอดจนเสียชีวิต[1][2]
ปัจจุบันนี้ยังไม่มีเซรุ่มแก้พิษปลากระเบน ซึ่งวิธีการปฐมพยาบาลขั้นต้น ให้กดบริเวณปากแผลด้วยผ้าสะอาดหนา ๆ เพื่อห้ามเลือด จากนั้นให้แช่บาดแผลในน้ำอุ่นจัดที่มีอุณหภูมิประมาณ 43-45 องศาเซลเซียส หรือใช้ผ้าชุบน้ำร้อนพันรอบบริเวณที่ปวดประมาณ 30–60 นาที หรือเอาอวัยวะส่วนที่โดนแทงไปอังไฟ เพราะความร้อนจะทำลายโปรตีนของพิษ อาการปวดจะค่อยทุเลาลง พิษจะคลายไปเองภายใน 24 ชั่วโมง หากมีอาการแพ้มากให้รีบนำส่งโรงพยาบาล[3]
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น